โดยผู้กำกับ “กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา” ที่เคยฝากผลงานหนังผี “บอดี้..#ศพ19”, สี่แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย และ ห้าแพร่ง ตอน หลาวชะโอนมาแล้ว กลับมาครั้งนี้ กอล์ฟ นำเรื่องราวของความเชื่อเรื่องผี โดยตั้งคำถามว่า..
“คุณเชื่อในโลกหลังความตายไหม”
หลังจากเห็น “ผี” ตัวเป็นๆ ด้วยกันครั้งแรก กล้าและวีแพทย์หนุ่มคู่หูก็ไม่อาจสลัดความหมกมุ่นในเรื่อง “โลกหลังความตาย” ได้อีกเลย กล้าผู้มีอดีตฝังใจเชื่อเรื่องผีมาตั้งแต่เด็ก การเจอผีครั้งนี้คือเหตุการณ์ที่ตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดนั้นไม่ใช่เรื่องงมงายอีกต่อไป ในขณะที่วีผู้ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับใดๆ แต่เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เหตุการณ์นี้ทำให้ความเชื่อของเขาสั่นคลอนในทันที ทั้งคู่จับมือร่วมกันทําโปรเจกต์ “ล่าแสงเหนือ” ตามล่าหาวิญญาณมาเป็น “ผู้ร่วมทดลอง” ด้วยความเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะกลายเป็นบุคคลกลุ่มแรกของโลกที่จะพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า “ผีมีจริง” กล้าและวีหมกมุ่นกับโปรเจกต์จนเสียงานเสียการ ด้วยวิธีการทดลองที่บ้าบิ่น ท้าทาย และดําดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต้องแลกมันกับมิตรภาพ รวมถึงความสัมพันธ์กับคนรัก และครอบครัว โดยหารู้ไม่ว่า คําตอบที่กําลังตามหานั้น จะมาพร้อมกับหายนะที่ไม่อาจคาดคิด
เมื่อการทดลอง “ผี” โดยคู่หูหมอนักวิจัย จะพาเรา “ข้ามเส้น” โลกหลังความตาย ไปสู่คําตอบที่ทุกคนคาดไม่ถึงนำแสดงโดย ต่อ–ธนภพ ลีรัตนขจร, ไอซ์–พาริส อินทรโกมาลย์สุต, ณิชา–ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ติดตามชมได้ทาง Netflix
กอล์ฟ–ปวีณ ภูริจิตปัญญา
ผู้กำกับ
ไอเดียหนังเรื่องนี้มาจากการจัดเวิร์คช็อปผู้กำกับ
“ไอเดียของหนังมาจากการจัดเวิร์คช็อปให้ผู้กำกับจับคู่กันทำหนังขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นผมจับคู่กับ เต๋อ–นวพล เราได้ไอเดียมาจากการที่มีคนพูดว่า ห้องที่พี่โอ๋ผู้กำกับอยู่ ผีดุ ซึ่งทำให้ทุกคนกลัวกันหมด แล้วผมกับเต๋อก็ตั้งคำถามกันว่า แล้วถ้ามีคนที่ไม่กลัวผีไปเจอผีล่ะ หรือคนที่สงสัยเรื่องผีแทนที่จะวิ่งหนี แต่กลับเดินไปถามว่า “โลกแห่งความตายเป็นอย่างไร” นี่คือไอเดียเริ่มต้นที่ผมรู้สึกว่าสนุกดี แม้ว่าจะผ่านมานานแต่ผมก็ยังสนใจไอเดียนี้อยู่ เลยเอาโปรเจกต์นี้มาเสนอจีดีเอชอีกครั้ง ซึ่งพี่เก้งและวัน ก็สนใจกับไอเดียนี้ ผมชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อที่เราโตมากับสังคมไทย กับความเชื่อที่ว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ซึ่งผมก็เป็นคนแบบนั้น ไม่ได้เชื่ออะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้ต่อต้าน การผสมผสานกลางๆ ทำให้ตัวละคร วี กับ กล้า ก็คือตัวผมนี่แหละที่แยกออกมาเป็น 2 คาแร็กเตอร์ ที่มีทั้งความเชื่อเรื่องผี และต้องการการยืนยันเพื่อพิสูจน์ว่าผีมีจริงหรือไม่?
และเหตุการณ์ที่มาหักล้างความคิดนี้ก็ทำให้ผมกับเพื่อนที่ท้าทายได้เจออะไรบางอย่าง!
“ผมกับเพื่อนขับรถไปเที่ยวกันตอนตีสองและระหว่างทางเราก็มีการพูดจาลบหลู่ผี พูดถึงผีทางโค้งว่าทำไมเขาต้องออกมาทางโค้ง หรือเขาต้องการให้เราหักไปอีกเลนเพื่อให้รถที่สวนมาชนตาย ผมก็เลยพูดขึ้นมาว่าถ้าเราจะหลอกผี ด้วยการหลอกผีผิดจังหวะ ผีจะฮาไหม ก็พูดเล่นกันไปเรื่อยๆ กับเพื่อน พอพูดจบเจอทางโค้งเลยครับ ผมเห็นกลุ่มก้อนควันลอยอยู่กลางถนน เป็นควันกลมๆ ตอนที่เห็นคิดในใจเอาแล้ว โดนแน่แล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พอรถขับผ่านควันนั้น กลุ่มควันก็ทะลุเข้ามาในรถแล้วก็ผ่านหน้าผมไป ซึ่งคนขับและเพื่อนในรถก็เห็นเหมือนกัน หลังจากนั้นเสี้ยววินาที ก็เห็นคนล้ำมาในถนนและตัวเอียง 45 องศากับพื้นถนน ใส่ชุดขาวแล้วโบกมือช้าๆ โชคดีที่เพื่อนผมมีสติ เลยขับรถเบี่ยงไปอีกเลนนึง แล้วก็มีรถสวนมาทันที แต่ว่าเพื่อนรีบหักหลบ ตอนที่เห็นผีเราไม่กล้ามองตรงๆ ตอนแรกคิดว่าเราหลอนไปเอง คิดไปเอง แต่พอเห็นด้วยกันทั้ง 3 คนก็เหมือนเป็นการคอนเฟิร์ม แต่ผมก็ยังสงสัยมาจนทุกวันนี้ว่ามันคืออะไรกันแน่?
ความสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมคิดเหมือนตัวละคร “กล้า” กับ “วี”
“สิ่งที่ผมสงสัยมันคล้ายกับตัวละคร “กล้า” ที่เขาเคยเห็นผีแล้วฝังใจมาเรื่อยๆ เขาพยายาม รีเสิร์ชเรื่องพวกนี้ พยายามดูเรื่องพวกนี้เหมือนกับตัวผมที่สนใจ แต่ผมอาจจะไม่ได้มุ่งมั่นเท่ากล้า แต่จุดเริ่มต้นของเราเหมือนกับที่ผมเขียนบทเรื่องนี้ขึ้นมา เราก็ได้ค้นหาข้อมูลบทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องผีและทางวิทยาศาสตร์ อาทิ หมอมองเห็นคนไข้ที่ตายไปแล้วกลับเข้าร่างเขามีการทดลองแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ เหรอ มันน่าสนุกมากที่จะเอาสองความคิดนี้มารวมกัน และถ้าเป็นคนที่พิสูจน์ได้ล่ะว่าโลกหลังความตายมีจริง และไปไขประตูความลับจักรวาลมาได้ ต้องเป็นคนที่ดังที่สุดในโลก ซึ่งมันคือเงื่อนไขของหนังเรื่องนี้”
อยากทำหนังผีรสชาติใหม่ๆ ไม่ซ้ำเดิม
“เรื่องนี้เราค่อนข้างรีเสิร์ชข้อมูลเยอะมาก ด้วยความที่ตัวละครของเราเป็นหมอ หมอต้องอยู่กับศพ อยู่กับความเป็นความตาย มันไม่ใช่เคสทั่วๆ ไปอย่างที่คนเจอผี หมอเจอผีจะมีรีแอ็คอีกแบบที่ต่างออกไป ผมได้ไปรีเสิร์ชข้อมูลกับคุณหมอปั๊บ ซึ่งเป็นศัลยแพทย์อยู่รพ.ศิริราช คุณหมอเป็นที่ปรึกษาให้กับหนังเรื่องนี้และได้พานักแสดง ต่อ, ไอซ์ ไปเวิร์คช็อปการเป็นหมอ การใช้เครื่องมือ การทำซีพีอาร์ การปั๊มหัวใจ เพื่อให้เขาเข้าไปอยู่ในคาแร็กเตอร์ให้ได้”
นักแสดงคือสุดยอดทีมเวิร์ค เคมีเข้ากัน สามารถถ่ายทอดออกมาได้มากกว่าบท
“นักแสดงทีมนี้ผมภูมิใจมากๆ นะครับ เพราะเราทำการแคสต์มาเยอะมาก เลือกกันมาเยอะมาก อย่างบทหมอกล้า เราต้องการคนที่มีพลังมากๆ ซึ่งไอซ์–พาริส เข้ามาแคสต์ในช่วงที่เขา เฟรชมากๆ มีความสด มีความที่เราคาดเดาไม่ได้ ผมรู้สึกสนใจเพราะมันสอดคล้องกับบทในหนังด้วย ส่วนต่อ–ธนภพ เขามาแคสต์แบบชนิดที่ว่าไม่เผื่อบทหมอวี ให้คนอื่นมาเล่นเลยนอกจากเขาเท่านั้น ซึ่งเราได้เอาสองคนนี้มาปรับลุคให้ไอซ์เพิ่มน้ำหนักให้ดูโตขึ้น เวิร์คช็อปให้ทั้งคู่สนิทกัน ต่อก็ปรับลุคให้ดูเนิร์ด และลดอายุลงนิดนึงเพื่อให้ดูเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันณิชาคือตัวละครสุดท้ายที่ได้มา และพูดเลยว่าโชคดีที่ได้น้องมารับบทนี้ เขามีสกิลการแสดงที่ดีมาก บอกให้ปรับนิดเดียวสามารถปรับโหมดเป็นตัวละครนั้นได้เลย เรียกว่าทุกครั้งที่ตัวละครนี้ออกมา ทุกสายตาของผู้ชมต้องหยุดอยู่ที่เขา สำหรับพี่แพรและพี่ขวัญ แม้จะมีไม่เยอะแต่ทุกครั้งที่ออกมาจะทำให้คนดูขนลุก เพราะทั้งสองท่านเป็นตัวละครหลักของเรื่อง”
ดีใจที่ “GHOST LAB ฉีกกฎทดลองผี” เป็น NetflixOriginal Film เรื่องแรกของจีดีเอช
“ดีใจมากๆครับ ที่หนังเรื่องนี้จะได้ฉายให้คนทั่วโลกได้ดูพร้อมกันทาง Netflix เพราะเป็นแพลตฟอร์มระดับโลก นั่นแปลว่าจะมีคนได้ดูหนังเรื่องนี้มากขึ้น บวกกับคอนเทนต์ของหนังที่มีความชาเลนจ์ มีความใหม่ และท้าทายศีลธรรมบางอย่าง เลยรู้สึกว่าเหมาะแล้วที่ได้มาฉายทางแพลตฟอร์มที่มีอิสระเรื่องการแสดงออกทางความคิดเห็น หนังเรื่องนี้มีความแปลกใหม่และท้าทายคนดูในแง่ความคิด ความเชื่อ ว่าเรามีความคิดเห็นเรื่องโลกหลังความตายอย่างไร เป็นหนังที่นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ให้ผู้ชมได้ตั้งคำถาม ซึ่งคำตอบจะเป็นอย่างไรนั้น ฝากติดตามผลงานของพวกเรา และเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ”
ต่อ–ธนภพ ลีรัตนขจร
รับบท “หมอวี”
แพทย์หนุ่มมาดนิ่ง ผู้ไม่เชื่อในเรื่องงมงายใดๆ จนกระทั่งวันที่เขาได้เห็น “ผี” ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าต่อตาพร้อมกับหมอกล้าในโรงพยาบาลที่ทั้งคู่ทํางานด้วยกัน ความเชื่อของวีถูกสั่นคลอนในทันที ในหัวของเขามีคําถามที่เกิดขึ้นมากมาย วีตอบรับคําชวนของกล้าร่วมกันทําโปรเจกต์เกี่ยวกับผี เพื่อที่จะหาคําตอบที่ยังไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้มาก่อน
บท “หมอวี” บทนี้ต้องเป็นของผม
“ครั้งแรกที่ผมได้อ่านบทหมอวี ผมรู้สึกสนใจตัวละครนี้มาก อยากเล่นมากๆ เหมือนตอนที่อ่านบทพี่ยิม วันที่จีดีเอชเรียกมาแคสต์ พี่กอล์ฟให้ผมแคสต์ทั้งสองบท คือ หมอกล้า และ หมอวี แต่บทหมอวีท้าทายผมมาก เพราะหมอวีเป็นบทที่ห่างจากตัวเรามาก ผมอยากบอกหมอวีว่า เราขอเล่นเป็นนายได้มั้ย และวันที่ได้มาแคสต์บทหมอวีรอบที่สอง ผมบอกกับตัวเองว่า บทนี้ต้องเป็นของเรา มันมีความดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ผมอยากเล่นบทหมอวี เพราะบทมีความซับซ้อน มีความสวิงทางอารมณ์มันยิ่งเป็นเสน่ห์สำหรับผมมากๆ ครับ”
อินกับตัวละครจนถอนตัวไม่ขึ้น ทุกตัวแสดงในเรื่องคือเคมีที่เข้ากัน
“ผมอินกับบทหมอวีมาก จนขนาดว่าถ้าพี่กอล์ฟให้ผมมาเล่นเป็นหมอกล้า ผมจะปฏิเสธไม่รับบทกล้า ผมรู้สึกว่าเราสองคนมีเคมีที่ลงตัวกัน รวมถึงณิชานางเอกของเรื่อง ผมว่าพี่กอล์ฟเลือกนักแสดงถูกต้องหมดทุกคนเลย ไอซ์เป็นคนที่มีพลังเหลือเฟือมาก มีความสด มีความใหม่ ส่วนณิชาเป็นนักแสดงที่เล่นดีมาก ธรรมชาติมาก ทุกซีนที่เข้าด้วยกันผมรู้สึกไว้ใจเขามาก เราแทบไม่ต้องพูดอะไรกันเลย ต่างคนต่างไปอ่านบททำการบ้านมาแล้วเข้าฉากด้วยกันได้ทันที
ณิชาเล่นได้ละเอียดมาก เป็นนักแสดงที่ผมเชื่อใจเวลาที่เข้าฉากด้วยกัน”
ซีนแรกเปิดมาเจอดราม่าจัดเต็ม ทึ่งผู้กำกับไว้ใจใส่เต็มไม่ยั้ง
“ผมไม่เคยเจออะไรง่ายๆ นะ แต่มันยิ่งทำให้ผมสนุกกับการทำงาน พี่กอล์ฟเป็นผู้กำกับที่เชื่อใจเรามากๆ เขาจะปล่อยให้เราคิดการแสดงเอง เขาจะชอบโยนโจทย์การแสดงมาให้เรา แล้วบอกว่าต่อไปคิดมาเลยนะว่าจะเล่นแบบไหน ตอนพี่ยิมผมก็ต้องเปลี่ยนกายภาพตัวเอง พอมาเรื่องนี้พี่กอล์ฟบอกว่าเล่นอะไรบนใบหน้าก็ได้ อย่างเรื่องนี้ผมก็ไปรีเสิร์ชข้อมูลอาการตากระตุก เพราะผมอยากเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ตัวเองไปเรื่อยๆ ครับ หนังเรื่องนี้เป็นการทำงานที่ยากมาก เพราะเราถ่ายทำแบบ new normal เป็นเรื่องแรกด้วย มันถูกจำกัดด้วยระยะเวลาการทำงาน คิวแรกผมก็โหดเลย แต่ผมกลับรู้สึกสนุกมาก ผมชอบคำนี้ที่พี่กอล์ฟบอกผมมาก ผมถามพี่กอล์ฟว่าเหนื่อยมั้ย? พี่กอล์ฟตอบว่า “ต่อเคยสนุกกับอะไรบางอย่างหรือเปล่าล่ะ อยู่ดีๆ มันก็ลืมเหนื่อยไปเลย” ซึ่งผมเองก็มีอารมณ์แบบนี้เหมือนพี่กอล์ฟเลย คือสนุกและอยากถ่ายหนังต่อไปเรื่อยๆ จนทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย”
ไปเวิร์คช็อปกับคุณหมอที่ศิริราชทำให้รักชีวิต และรู้สึกว่าคนเรากลัวบ้างก็ดี
“วันที่ได้ไปเวิร์คช็อปกับคุณหมอที่ศิริราชวันนั้นผมรู้สึกดีมากๆ เลยนะครับ ได้ไปดูการผ่าตัดเคสจริงๆ มันทำให้เรารักสุขภาพมากขึ้น รักชีวิตตัวเองมากขึ้น ทำให้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่าคนเรากลัวบ้างก็ดี อย่ากล้าไปหมดซะทุกอย่าง อย่ากล้าจนไม่ระมัดระวังชีวิต คนเราทุกวันนี้ไปง่ายมากนะครับ ผมว่าหนังเรื่องนี้ตอบโจทย์สิ่งนี้ ถ้าเราจะต้องกล้าจนไม่รักชีวิต เรากลัวบ้างก็ได้ และด้วยเรื่องของเวลายิ่งทำให้ผมคิดว่าสิ่งที่ตัวละคร “วี” กับผมเหมือนกันคือการดูแลพ่อแม่ การให้ความสำคัญกับครอบครัว การดูแลพ่อแม่เป็นการให้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด คือสิ่งที่ผมได้จากตัวละครเรื่องนี้”
อยากขอบคุณผู้กำกับที่ให้โอกาสผมเล่นเรื่องนี้
“ผมอยากขอบคุณพี่กอล์ฟมากๆ ครับที่ให้ผมมารับบทหมอวี ผมไม่รู้หรอกครับว่าหนัง GHOST LAB จะนำพาคนดูให้ไปเจอกับอะไรบ้าง แต่เป็นอีกโปรเจกต์หนึ่งที่ผมพูดกับทุกคนว่า ความสามารถทางการแสดงที่ผมมีทั้งหมด ผมทุ่มสุดตัวไปกับหนังเรื่องนี้หมดแล้ว พวกเราทุกคน ทีมงาน นักแสดงทุกคนเต็มที่มากๆ เป็นหนังที่อยากให้ทุกคนได้ชมกันครับ และครั้งนี้หนังเรื่องนี้ได้ฉายให้ชมครั้งแรกพร้อมกันทาง Netflix ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้ผู้ชมรับชมกันได้มากขึ้นครับ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ”
ไอซ์–พาริส อินทรโกมาลย์สุต
รับบท “หมอกล้า”
แพทย์หนุ่มไฟแรง ผู้หมกมุ่นเรื่องโลกหลังความตายมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพราะเชื่อว่าวิญญาณของพ่อมาปรากฏตัวให้เห็น พอเข้ามหาวิทยาลัย กล้าเริ่มต้นทําโปรเจกต์ศึกษาเรื่องผีและสิ่งลี้ลับ จนถึงขั้นไปตามล่าหาวิญญาณตามสถานที่ต่างๆ ที่คนบอกว่าเฮี้ยน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกลับมา จนกระทั่งวันที่เขาได้บังเอิญเจอ “ผี” อีกครั้ง พร้อมกับ วี แพทย์หนุ่มเพื่อนสนิท กล้าจึงตัดสินใจชวนวีมาร่วมทําการทดลองเรื่องผีกับเขาในโปรเจกต์ “ล่าแสงเหนือ”
พี่กอล์ฟ ผู้กำกับให้มาแคสต์ทั้ง 2 บท “หมอกล้า” และ “หมอวี”
“วันที่พี่กอล์ฟเรียกมาแคสต์ พี่เขาให้ผมเล่นทั้ง 2 บท แต่ผมชอบคาแร็กเตอร์กล้ามากกว่า ที่มีความกล้าไปให้สุด มีความกวนๆ มี energy คล้ายๆ ตัวผมอยู่นะ แต่พอได้มาเวิร์คช็อปได้เล่นบทนี้ไปเรื่อยๆ ผมรู้เลยว่าบทหมอกล้า ก็คือพี่กอล์ฟ ผู้กำกับ วันที่รู้ว่าเราได้เล่นเป็นหมอกล้า ผมดีใจมากๆ ครับ และยังได้มาร่วมงานกับพี่ต่อด้วย”
เรื่องนี้ต้องปรับลุค ตัดผม เพิ่มน้ำหนัก เวิร์คช็อปให้ดูโตขึ้น
“ผมต้องปรับลุคหลายๆ อย่างทั้งตัดผม เพิ่มน้ำหนัก เป็นการปรับลุคให้ดูโตขึ้น ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดระบาดรอบแรกพอดีเป็นช่วงกักตัวอยู่บ้าน เราเลยมีเวลาในการเพิ่มน้ำหนัก ตอนนั้นใครเจอก็จะบอกว่าไอซ์ตัวหนามาก นอกจากเพิ่มน้ำหนักแล้ว เราก็ต้องไปเวิร์คช็อปที่โรงพยาบาล ได้ไปในสถานที่จริง ไปดูการผ่าตัดเคสจริงๆ ว่าเขาทำกันอย่างไร การได้เข้าไปสัมผัส ไปเห็นว่าคุณหมอต้องทำอะไรบ้าง มันทำให้ผมเข้าถึงคาแร็กเตอร์ เข้าถึงบทได้ง่ายขึ้น รับรู้ว่าคุณหมอเรียนมาหนัก ยิ่งพออยู่ในห้อง ER ยิ่งรู้ว่าหมอทำงานตลอดเวลา แทบจะนอนบนโซฟาได้แค่แป๊บเดียวก็ต้องลุกมาทำงาน เป็นประสบการณ์ใหม่มากๆ และรู้ว่าอาชีพหมอเป็นอาชีพที่เสียสละที่สุด ทำให้รู้คุณค่าของชีวิตมากขึ้นด้วยครับ”
เข้าฉากวันแรกเกร็งมาก โชคดีได้พี่ต่อช่วยไว้
“วันที่เข้าฉากแรกๆ ผมเกร็งมากๆ โชคดีได้ครูร่ม แอ็คติ้งโค้ชพี่กอล์ฟ และพี่ต่อคอยช่วย พี่ต่อทำให้ผม relax มากขึ้น เขาพยายามชวนคุยให้เราผ่อนคลาย คอยบอกเทคนิคให้เราทำตัวสบายๆ เวลาเข้าฉาก ซึ่งพอเห็นพี่ต่อเข้าซีน ผมแบบนับถือพี่ต่อเลย ว่าเล่นได้สุดยอดมาก มันเลยทำให้เราผ่านซีนยากๆ ไปได้ด้วยกัน พี่ต่อกลายเป็นคู่บัดดี้จริงๆ ของผม ในการแสดงเรื่องนี้ ทั้งในจอและนอกจอ”
เล่นจริง เจ็บจริง ได้แผลกลับมาเป็นที่ระลึก ทำให้นึกถึงซีนประทับใจ
“เรื่องนี้มีซีนแอ็คชันเลยต้องมีกล้องคอยวิ่งไปวิ่งมาอยู่ข้างหลังตัวผมตลอด เราเล่นตามซีนแล้วก็ไม่รู้ว่ากล้องวิ่งอยู่ข้างหลังผม ปรากฏเราฟาดไปโดนกล้องเต็มแรงเลือดไหลเลยครับ มันเป็นซีนอารมณ์ที่หนักที่สุด และเราเล่นแบบ long take ให้เราได้ปลดปล่อยพลัง ปลดปล่อยอารมณ์มากๆ มันเลยกลายเป็นซีนที่ผมประทับใจมาก เวลามองรอยแผลที่กลายเป็นที่ระลึก ผมจะนึกถึงซีนนี้ ที่เราเล่นได้เต็มที่มากๆ”
มุมมองจากหนังทำให้เราโตขึ้น
“หนังเรื่องนี้นอกจากปรับลุคให้ผมดูโตขึ้นแล้ว มุมมองความคิดของผมก็โตขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผมได้เปิดโลก ได้ทำงานที่ใหญ่ขึ้น ได้เจออะไรใหม่ๆ ได้ร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ผู้กำกับที่เก่งมาก เป็นคนที่ชัดเจนมาก และมีความดื้อที่จะทำให้สิ่งนั้นๆ ในบางซีนให้ออกมาสำเร็จจนได้ แม้มันจะยากมาก บางซีนผมบอกพี่กอล์ฟขอเล่นอีกครั้ง พี่กอล์ฟจะบอกว่าไม่เอาแล้ว แค่นี้พอแล้ว อาจเป็นเพราะพี่กอล์ฟเป็นผู้กำกับที่มีการตัดต่อภาพไว้ในหัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และการที่เราได้มาถ่ายทำที่โรงพยาบาล ได้เห็นคนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ผมได้คิดอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอาชีพหมอ เป็นอาชีพที่ต้องทำด้วยใจและเสียสละมากๆ ครับ มันทำให้เรารักชีวิตมากขึ้น”
เล่นหนังผี และเป็นคนกลัวผีมาก
“ผมเป็นคนที่กลัวผีมากๆ แต่อาจจะไม่ได้เชื่อ 100 % แต่เราแค่กลัวมากๆ ซีนที่ต้องไปเดินอยู่ในสุสานคนเดียวน่ากลัวสุดๆ มีซีนหนึ่งที่พี่กอล์ฟให้ผมเดินเข้าไปคนเดียว มีแค่กล้องโกโปรตัวเล็กๆ ติดไปกับไฟฉายอันเดียวให้ผมเดินเข้าไปเอง โดยพี่กอล์ฟจะยืนตะโกนอยู่ข้างนอกว่าเดินเข้าไปลึกๆ อีก เข้าไปอีก ซึ่งมันมืดมาก เราไปเหยียบอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ ยิ่งเห็นรูปปั้นเด็ก นางฟ้าแขนหัก ไม่สมประกอบเต็มไปหมด มีหน้าหาย มันยิ่งทำให้บรรยากาศหลอน เป็นซีนที่ผมกลัวมากๆ”
อีกหนึ่งซีน 5 ดาว ที่กลัวจนกล้องกระเด็น
“ซีนที่ผมต้องเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านที่อยู่กลางป่า พี่กอล์ฟบอกต้องปิดไฟ แล้วมีกล้องที่ต่อกลับแฟลชให้ผมถือเข้าไป 1 ตัว แล้วมีจังหวะหนึ่งที่ผมค่อยๆ ถอยหลังแล้วไปชนอะไรสักอย่าง แล้วเก้าอี้มันคว่ำลงมา ผมก็ตกใจจริงๆ แล้วแบบเฮ้ย!! กล้องกับแฟลช ตกลงมากระจายออกจากกันเลย ตอนนั้นผมกลัวมากจริงๆ ครับ บรรยากาศมันทำให้เราหลอนมาก”
รู้สึกอย่างไรที่หนังได้ฉายใน Netflix
“ดีใจที่ได้มีผลงานเป็น Netflix Original Film ฉายครั้งแรกพร้อมกันทาง Netflix ครับ เพราะหนังเรื่องนี้จะได้มีผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น.. ฝากเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ เป็นหนังเรื่องแรกของผมอย่างเต็มตัว ที่เราเต็มที่กันมากๆ นอกจากความสนุกแล้ว หนังอาจจะตั้งคำถามบางอย่างให้กับผู้ชมด้วยครับ”
ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์
รับบท “ใหม่”
แฟนสาวของหมอกล้าซึ่งคบกันมาหลายปี แต่ไม่เคยรับรู้ว่ากล้าหมกมุ่นเรื่องผี และโลกหลังความตายเลยแม้แต่น้อย ใหม่จึงต้องมาหาคําตอบว่าพวกเขาทั้งสองกําลังทําอะไรอยู่กันแน่
หนังเรื่องแรกในชีวิต อ่านบทจบ โดนใจ!!
“วันที่มาแคสต์วันแรก พี่กอล์ฟ ผู้กำกับ ให้ลองเล่นทั้งบทดราม่า บทน่ารักกุ๊กกิ๊ก ลองหลายๆ แบบ มีแทบทุกอารมณ์ที่มีในเรื่องเลยค่ะ จำได้ว่าวันนั้นที่พี่เขาโทรมาบอกผลว่าผ่าน คือดีใจมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับ GDH แล้วก็เป็นหนังเรื่องแรกของหนูด้วย เลยรู้สึกว่าประทับใจมากค่ะ แล้วหนูก็มีความตั้งใจ อยากทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ พอได้อ่านบทแล้วชอบมากค่ะ หนูรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ คนดูน่าจะคาดไม่ถึงว่ากำลังจะเล่าเกี่ยวกับอะไร ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย คือปกติเราดูหนังผีเราคาดเดาได้ว่าจะเป็นแบบนั้นจะเป็นแบบนี้ แต่ว่าเรื่องนี้คือรู้สึกอ่านไปแล้วเดาไม่ออกว่าสุดท้ายแล้วจะหักมุมแบบไหน แล้วบทของใหม่ตัวละครที่ณิชาได้รับ ตอนอ่านก็รู้สึกยากนิดหนึ่ง (หัวเราะ) แต่ก็รู้สึกอยากเล่นค่ะ อยากทำออกมาให้ดี ถ่ายทอดตัวละครออกมาให้ดี”
ร่วมงานกับไอซ์ ต้องเข้าเวิร์คช็อป การเป็นแฟน
“พอได้ร่วมงานกับไอซ์ รู้สึกว่าไอซ์เป็นเด็กที่มี energy สูงมากแล้วมันก็เผื่อแผ่ไปถึงคนข้างๆด้วยค่ะ ในความไนซ์ของเขา ความเต็มที่กับการทำงานของเขา คือเขาเป็นคนที่ตั้งใจมากๆ ตัวเราเองก็ดีใจมากๆ ที่ได้มาทำงานกับคนที่ตั้งใจและพร้อมทุ่มเททุกอย่างให้งานเหมือนกัน เราต้องมีการเวิร์คช็อปให้เราจูนเข้าหากัน เวลาเขาอยู่ใกล้กันเป็นอย่างไร แล้วก็ทำเรื่องความรู้สึกที่มีต่อกันอะไรแบบนี้ ว่าเรามองผู้ชายคนนี้เป็นแบบไหน สบายใจของเราเป็นอย่างไร น่ารักของเราต้องเบอร์ไหน เป็นความสดใสในชีวิตเราแบบไหน”
ร่วมงานกับต่อ ในเวอร์ชันหนัง
“เคยเจอพี่ต่อมาบ้างแล้ว ตามงานต่างๆ พอได้มาร่วมงานจริงๆครั้งนี้ ตื่นเต้นค่ะ เราเห็นผลงานพี่ต่อมาหลายเรื่องแล้ว รู้สึกว่าพี่เขาเก่ง พี่เขาก็เป็นคนเต็มที่กับการทำงานมากๆ ชื่นชมการทำงานของเขาที่ผ่านมา พอได้มาเล่นด้วยกันแล้วรู้สึกวางใจเขามากๆ ว่าเขาจะช่วยเราได้ แล้วเขาก็แข็งแรงมากในตัวละครของเขา”
ซีนดราม่าอันหนักหน่วง
“เรื่องนี้เจอซีนดราม่าเยอะมาก และแต่ละซีนก็หนักมากค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นซีนชีวิตของใหม่ที่เจอเรื่องราวรุนแรง แล้วก็จะมีความเครียด ความเสียใจเยอะมากๆ ทุกครั้งที่ไปเจอวีก็ค่อนข้างหนักค่ะ ค่อนข้างหนักทุกซีน พอเข้าด้วยกันแล้วต้องแบบใช้สมาธิสูงมากๆ เพื่อไม่ให้ตัวละครมันหายไปจากเราให้มีสมาธิจริงๆ ก่อนเข้าซีน”
เสน่ห์ของภาพยนตร์ มนต์สะกดของการแสดง
“รู้สึกมีเสน่ห์มากๆ คือพอได้มาเล่นจริงๆ แล้วหนูรู้สึกว่าหนังมีความ real จริง ทุก react ทุกสัมผัส แบบบางทีเรารับอารมณ์นั้นมา แต่เราไม่จำเป็นจะต้องขยับร่างกายเลย มันรู้สึกอยู่ข้างในแล้วมันก็จะเห็นออกมา แล้วก็ชอบวิธีการถ่ายทำค่ะ แบบแสงหรือว่าการจัดเซ็ตฉาก แล้วก็ชอบการแต่งหน้าด้วยที่แบบมัน real มาก ๆ เมื่อไรที่โทรมก็คือโทรม แบบรู้สึกชอบที่ทุกอย่างมันจริง ทั้งเซ็ต ทั้งฉาก รู้สึกว่าเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งของเราเหมือนกัน ที่เวลาเราเดินเข้าไปตรงนั้นแล้วเราเห็น เรารู้สึกอะไร”
ซีน 5 ดาว ของตัวเองในหนังเรื่องนี้
“ถ้าที่สุดแล้วก็น่าจะเป็นตอนที่เข้ากับหมอวีค่ะ มันเป็นซีนดราม่าต้องใช้อารมณ์ค่อนข้างหนักมากๆ คือที่ให้ 5 ดาว เพราะว่าตอนอ่านไปรอบแรกรู้สึกอินแล้ว แต่พอต้องเล่นจริงๆ มีความตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าหนูไปให้ 5 ดาวกับมัน หนูก็เลยมีความตื่นเต้นนิดนึงก่อนที่จะไปถ่ายในวันนั้น แต่พอเราได้แสดงออกมาแล้ว ก็รู้สึกโล่งและดีใจที่มันผ่านไปได้”
ร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ผู้กำกับ ชัดเจนในมุมมอง
“ทำงานกับพี่กอล์ฟสนุกมากค่ะ รู้สึกว่าเข้าใจง่ายในสิ่งที่เขาพูด ในสิ่งที่ผู้กำกับเขาต้องการ เขาสื่อสารมา หนูรู้สึกว่าชัดเจนว่าตัวละครเขามองแบบไหน เขาคิดว่าตัวละครนั้นเป็นแบบนี้นะ ก็รู้สึกว่าทำงานด้วยแล้วสบายใจ ถ้าสงสัยก็ถามพี่กอล์ฟได้ พี่กอล์ฟก็เล่าให้ฟังแล้วก็รู้สึกแบบ ขอบคุณพี่กอล์ฟ มั่นใจในตัวหนูตลอดเลย มันเป็นแบบ ถ้ากำลังจะเข้าฉากแล้วหนูจะตื่นเต้นพี่เขาก็จะพูดกับหนูว่า หนูทำได้อยู่แล้ว หนูก็จะรู้สึกมีกำลังใจหนึ่ง ที่แบบโอเค โอเคลุย!”
ฝากถึงหนังเรื่องแรกในชีวิต
“หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของณิชาด้วย ณิชารักหนังเรื่องนี้มากๆ ตั้งแต่ตอนที่ได้รับ อ่านบท แล้วก็ได้คุยกับพี่กอล์ฟ รู้สึกว่าต้องทำออกมาให้ดีที่สุด แล้วก็หวังว่าทุกคนที่ดูหนังเรื่องนี้ก็จะได้สนุกไปกับเรา ได้ร้องไห้ ได้โกรธ ได้เสียน้ำตา และหลายๆอารมณ์ไปจากพวกเรา อยากให้ทุกคนได้ข้อคิดดีๆ บางคนอาจจะเห็นในมุมที่ต่างออกไป ว่าหนังเรื่องนี้จะให้อะไรกับเราบ้างอยากให้ทุกคนติดตามกัน ว่าเราตั้งใจทำงานมากๆ จริงๆ”
“GHOST LAB ฉีกกฎทดลองผี” กำหนดฉาย 26พฤษภาคมนี้ โดยสามารถรับชมได้พร้อมกันทั่วโลก ทาง Netflixเท่านั้น
More Stories
แอฟ- ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ Friend of Jubilee Diamond นำทีมนักแสดงและนางแบบแนวหน้าของเมืองไทย ร่วมงานยิ่งใหญ่ Jubilee Diamond 95th Anniversary, The House of Excellence
“GMMTV” เปิดบ้านต้อนรับ “บุ๋น” เสิร์ฟความฟินใส่สุดทุกโมเมนต์!! ในคอนเสิร์ตเดี่ยว “BOUNCY BOUN CONCERT” ปักหมุดจองบัตร 1 มิ.ย.นี้
“XG” เปิดตัวเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต XG 1st WORLD TOUR “The first HOWL”